คิดเป็น เห็นธรรม

คิดเป็น เห็นธรรม คิดเป็น เห็นธรรม

เปรตทำไม่ได้ พญานาคทำไม่ได้ รุกขะภูมะทำไม่ได้ ... แต่มนุษย์ทำได้

  • 2024,Apr 19
  • 2452

การได้มาอาศัยอยู่ในกายของมนุษย์นี้ขณะหนึ่ง ขณะหนึ่งของพวกเราอาจจะตั้งแต่ ๑ วันจนไปถึง ๓๖,๕๐๐ วัน ก็แล้วแต่ ขอเพียงแต่ให้รู้ประโยชน์ที่จะได้จากการที่ได้กายมนุษย์นี้ ขอให้ได้ใช้กายของมนุษย์นี้สร้างความดี สร้างบุญสร้างบารมี อย่าใช้มันทำชั่วเสียล่ะ เสียดาย ถ้าจะใช้มันทำชั่วจริงๆ ไม่ต้องเป็นคนก็ได้ เป็นสัตว์เดรัจฉานก็ได้ จะเกิดเป็นเก้งเป็นกวางก็ได้

...

ใครที่มีกายมนุษย์แล้วไม่ได้ใช้ทำความดี ก็ไม่ต่างจากเก้งจากกวาง ถ้าคิดว่าจะเกิดมาทำชั่วทำเลวไปวันๆ ก็ไม่ต้องใช้ถึงกายมนุษย์ กายอื่นๆ เป็นหมาเป็นแมวก็ได้ ดูแล้วจะทำชั่วได้โดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวง ไม่ต้องมีสินสอดทองหมั้น จะแต่งงานกันข้างลู่ข้างทางเมื่อใดก็ได้ และก็ไม่จำเป็นจะต้องผูกมัดไว้กับใครคนใดคนเดียว เลือกได้เลยเจอตัวนี้พบตัวนั้น ไม่ต้องรอหมั้นรอพิธีสมรส ถ้าเกิดมาเพื่อจะกระทำสิ่งนั้นๆ ก็ไม่ต้องอาศัยกายมนุษย์ กาย อื่นๆ ทำได้ง่ายกว่า ทำได้เยอะกว่า ทำได้สะดวกกว่า ถ้าเป็นมนุษย์แล้วไปทำอย่างนั้นเสียอีกจะถูกตำหนิ

...

กายมนุษย์เอาไว้ใช้ทำดี มันทำดีได้มากกว่านั้น จะไปทำเฉพาะแค่นั้นจึงว่าไม่คุ้ม ใช้ให้ถูกตรง ใช้ให้ถูกต้อง ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดคือใช้สร้างบารมี ใช้สร้างคุณงามความดีใส่จิตวิญญาณ อันว่าความดีที่เดรัจฉานทำไม่ได้ เปรตทำไม่ได้คือบารมี ๑๐ ทัศ เปรตสำนึกผิดสำนึกบาปอยากจะบวชก็ทำไม่ได้ พญานาคสำนึกผิดสำนึกบาปจะบวชก็ไม่ได้

...

รุกขะภูมะทั้งหลายอยากจะสร้างทานบารมี ด้วยว่าที่อยู่ที่อาศัยของตัวเองนั้นทั้งแคบทั้งเล็ก ถูกจำกัดอยู่ตามต้นไม้ต้นกอหญ้า ได้ทราบมาว่าเทพเทวดาที่ได้วิมานทั้งหลาย เพราะได้เคยถวายทานต่างๆ ไว้ที่เมืองมนุษย์ ไทยทานของตัวเองก็ไม่มี แล้วบรรดารุกขะภุมมะเหล่านั้นจะเอาไทยทานทั้งหลายมาจากไหน จะใส่บาตร จะถวายสังฆทานเหมือนกับมนุษย์ก็ทำไม่ได้ จึงหมดโอกาสที่จะสร้างทานบารมี จึงว่าความพิเศษของมนุษย์คือ สามารถสร้างบารมีทั้ง ๑๐ ประการให้เลอเลิศขนาดใดก็ได้ เจ้าของที่มีสติปัญญาย่อมใช้อวัยวะที่มีอยู่อย่างถูกตรงให้ห่างไกลจากกิเลส

ใช้ปฏิบัติตรง “อุชุปฏิปันโน”
ใช้ปฏิบัติดี “สุปฏิปันโน”
ใช้ปฏิบัติถูกทาง “ญายปฏิปันโน”

...

ก่อนที่กายจะพัง ก่อนที่กายจะถูกเผาทิ้ง ควรจะได้ประโยชน์จากการได้สังขารร่างกายมนุษย์ ตามที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ นั่นคือประโยชน์อย่างยิ่ง
การได้กินข้าว การได้แต่งเนื้อแต่งตัว
การได้ฟังเพลงขับกล่อม...ไม่ใช่บารมี
การได้กินอิ่ม กินอร่อย...ยังไม่ใช่บารมี
กินอย่างไม่อดไม่อยาก ยังไม่เรียกว่าเป็นบุญ
กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย เสียอีกกลับเป็นบุญ
...

ต้องรู้จักบุญที่แท้จริง คือบุญตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้สอนไว้ เป็นมนุษย์เท่านั้นที่จะกระทำได้ เราก็อย่าลืม อย่าละเลย ซึ่งการเงี่ยหูฟังธรรม ฟังความจริง จะได้ใช้อวัยวะนี้ให้คุ้ม ก่อนที่จะถูกเผาหรือถูกฝัง...
 

บรรยายธรรมเมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๒